http://www.naewna.com/local/7028
วันศุกร์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555, 06.00 น.
ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ให้ทุนการวิจัยกับ รศ.ดร.คณพล จุฑามณี และคณะมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อขยายผลต่อยอดงานวิจัย การพัฒนาดินขาวเคโอลินเป็นสารเคลือบผล เพื่อเพิ่มผลผลิต ควบคุมเพลี้ยไฟ และโรคแอนแทรคโนสในไม้ผลเศรษฐกิจผลการวิจัยพบว่าดินขาวเคโอลินในประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ในหลายพื้นที่ เช่นอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง มีคุณสมบัติทางกายภาพและเคมี รวมทั้งคุณสมบัติในการเป็นวัสดุเคลือบ ใบ กิ่ง และผล เพื่อลดอาการใบไหม้ และเพิ่มคุณภาพผลผลิตในไม้ผลต่างกัน
ทั้งนี้โดยพบว่าดินขาวเคโอลิน ทั้ง 3 แหล่ง สามารถนำมาพัฒนาเป็นสารเคลือบใบและผลในมะม่วงและแก้วมังกรได้ดี เมื่อพ่นสารเคโอลิน จะสามารถป้องกันการทำลายของศัตรูพืชได้ และยังป้องกันไม่ให้ผิวผลไม้สัมผัสกับแดดโดยตรง เนื่องจากมีลักษณะเป็นฟิล์มบางๆ จึงทำให้ผลไม้มีผิวสวยงาม โดยเฉพาะดินขาวเคโอลิน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เหมาะสำหรับใช้เคลือบผลมะม่วงในฤดูร้อน เพื่อป้องกันกระบวนการสังเคราะห์แสงของมะม่วง ทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้น ผิวมะม่วงในระยะสุกมีสีเหลืองสวยงาม และยังช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคแอนแทรคโนส บนผิวมะม่วงน้ำดอกไม้ระยะผลสุกได้ และยังช่วยลดการเกิดโรคใบจุดสีน้ำตาลบนกิ่งแก้วมังกรด้วย
สำหรับดินขาวเคโอลิน พบได้ในประเทศจีน เม็กซิโก บราซิล ในประเทศไทยพบเหมืองแร่ที่ผลิตดินขาวเคโอลิน ที่จังหวัดลำปาง ระนอง อุตรดิตถ์ และปราจีนบุรี ดินขาวเคโอลินเป็นสารที่ให้สีขาวและใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิก เครื่องสำอาง และยาสีฟัน ส่วนแนวคิดที่นำดินขาวเคโอลินมาใช้ทางการเกษตร คือดินขาวเคโอลินเมื่อถูกผลิตให้อยู่ในรูปสารละลายและนำมาพ่นให้กับพืช จะมีลักษณะเป็นฟิล์มเคลือบลำต้น ใบ และผลไม้ ฟิล์มนี้จะมีคุณสมบัติป้องกันการเข้าทำลายของแมลงและการวางไข่ของเพลี้ยได้ เคโอลิน มีผลต่อกระบวนการสังเคราะห์แสง โดยสารสีขาวช่วยสะท้อนแสงช่วยลดความร้อนที่พืชได้รับ โดยใช้สารละลายดินขาวเคโอลิน ความเข้มข้น 60 กรัม/ลิตร ฉีดพ่น ตั้งแต่มะม่วงมีอายุใบ 45 วัน จนถึงระยะผลโตเต็มที่ 12 สัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว ซึ่งได้ผลดีในระดับที่จะนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้