สหภาพแรงงาน ขสมก. เตรียมนัดถกประชุม 11 พ.ค.นี้ หาข้อสรุปซื้อรถใหม่ แทนชุดเก่าที่ใช้ลากยาวมาไม่ต่ำกว่า 18 ปี ยื่นเสนอต่อ รมว.คมนาคม แจงจำเป็นต่อประชาชน แขวะรถโดยสารเอกชนฉวยโอกาสน้ำมันแพงขึ้นราคาค่าโดยสาร
นายวีระพงศ์ วงแหวน เลขาธิการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า วันที่ 11 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการของสหภาพแรงงานเพื่อหาข้อสรุป หลังจากนั้นจะมีการขอเข้าพบ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม เพื่อทวงถามเรื่องการซื้อรถใหม่ว่าจะเอาอย่างไร เพราะทางสหภาพฯเองมีความต้องการให้ภาครัฐเร่งดำเนินการอย่างจริงจังซะที
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางสหภาพฯ ได้พยายามติดตามมาแล้วถึง 3-4 รัฐบาล ปรากฏว่าทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ทั้งที่รถใหม่นี้มันควรจะมีเข้ามาตั้งแต่ปี 2546-47 นั่นแล้ว กระทั่งมาถึงรัฐบาลชุดปัจจุบัน ตอนที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ก็รับปากว่าจะซื้อเพิ่มเข้ามาให้ ขสมก. กว่า 3,000 คัน แต่สุดท้ายเรื่องก็ไปไม่ถึงไหน ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างที่รับปากไว้ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรดำเนินการเร่งด่วน เพราะจำเป็นต่อประชาชนอย่างมาก หากว่ายังไม่มาความคืบหน้า หรือความชัดเจน ทางสหภาพฯ ก็จะมีมาตรการเคลื่อนไหวต่อไปแน่นอน”
นายวีระพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยติดตามความคืบหน้าพบว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ที่สภาพัฒน์ เพื่อทำแผนฟื้นฟู ซึ่งในความเป็นจริง หากรถเก่าหมดอายุการใช้งาน ก็ต้องดำเนินการจัดหารถใหม่เข้ามาทดแทนอยู่แล้ว ฉะนั้นเรื่องของแผนฟื้นฟู กับเรื่องการจัดซื้อรถใหม่จึงเป็นคนละเรื่องกัน ทั้งนี้ หากทาง ขสมก. ยังไม่มีรถใหม่ ภายใน 2-3 ปี องค์การฯ คงไม่มีรถบริการพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน
ส่วนสาเหตุที่ทางสหภาพแรงงานจำเป็นต้องออกมาทวงถามรัฐบาลเรื่องการจัดหาซื้อรถโดยสาร ขสมก.ใหม่นั้น เนื่องจากว่า รถ ขสมก. ทุกวันนี้แต่ละคันมีอายุการใช้งานเกินกว่าเกณฑ์คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ว่า รถของรัฐ ที่วิ่งให้บริการต้องมีอายุไม่เกิน 10 ปี ในขณะที่รถ ขสมก. ปัจจุบันมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี บางคันใช้งานมานานเกือบ 20 ปี ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องของรถเสียเดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 400 คัน จนไม่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มที่ บางครั้งเสียระหว่างให้บริการบนทางด่วนบ้าง ตามเส้นทางต่างๆ บ้าง ทำให้ประชาชนเสียเวลา โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์ประท้วงทางการเมือง รถ ขสมก. เสียหายไปจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 31 คัน ซึ่งก็ยังไม่มีรถใหม่มาแทนให้แต่อย่างใด
“ผมไม่อยากให้พูดว่าจะนำรถมาให้บริการ ในขณะที่รถไม่สามารถให้บริการได้อีกแล้ว ซ้ำร้ายตอนนี้ก็มีรถเอกชนเข้ามาวิ่งให้บริการเยอะมาก ที่วิ่งทับเส้นทาง ขสมก.ก็มี ที่สำคัญสิ่งที่สหภาพฯ พยายามคัดค้านมาตลอดทุกยุค ทุกสมัย คือนโยบายเรื่องการแปรรูป สหภาพฯไม่อยากให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ เพราะจะเป็นการเพิ่มอำนาจในการต่อรองของภาคเอกชนมีมากขึ้น อย่างล่าสุดก็จะปรับขึ้นค่าโดยสารอีก 1 บาท ซึ่งบางคันก็เปลี่ยนไปใช้เอ็นจีวีนานแล้ว พอช่วงนี้น้ำมันขึ้นก็มาอ้างว่าจะต้องปรับขึ้นค่าโดยสาร อ้างว่ายังไม่ได้ใช้เอ็นจีวี แต่พอเอ็นจีวีขึ้น ก็บอกตอนนี้เขาใช้เอ็นจีวีเลยจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าโดยสาร นี่คือการบริหารแบบนายทุนที่ไม่ได้มองถึงเรื่องการให้บริการประชาชนอย่างแท้จริง คิดเพียงว่าทำอย่างไรจึงจะได้ผลกำไรเยอะๆเท่านั้นเอง”
อย่างไรก็ตาม ขสมก. ก็จำเป็นต้องมีอยู่ต่อไป เพื่อให้บริการประชาชน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ส่วนกิจกรรมของสหภาพแรงงาน ในวันที่ 1 พ.ค.นี้จะมีความเคลื่อนไหวลักษณะขบวนรถ ขสมก. สะท้อนปัญหาต่างๆ โดยหัวขบวนจะเริ่มตั้งแต่หน้ารัฐสภา.