กินบิสกิตบ่อยเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งมดลูก

http://www.thaipost.net/node/44439

5 September 2554

งานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ว่า การทานบิสกิต เค้ก หรือขนมปังนิ่ม ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งมดลูกมากขึ้น 33% หากทานขนมหวานเหล่านี้อย่างต่ำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และหากทานมากกว่านั้นก็มีโอกาสล้มป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับเนื้องอกมากขึ้น 42%
ข้อค้นพบนี้มาจากการวิจัยนาน 10 ปีของมหาวิทยาลัยในสวีเดน โดยศึกษาพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้หญิง 6 หมื่นคน เพื่อศึกษาความเกี่ยวข้องระหว่างการรับประทานน้ำตาล กับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเนื้องอกในมดลูก
ในแต่ละปีมีผู้หญิงอังกฤษเป็นโรคมะเร็งมดลูก 6,400 คน และเสียชีวิตเพราะโรคนี้ปีละ 1 พันคน
โดยปกติโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งมดลูก มีความเชื่อมโยงกับน้ำหนักตัวของแต่ละคน แต่นักวิจัยจากสถาบันคาโรลินสกาในกรุงสตอกโฮลม์ต้องการศึกษาเพิ่มว่า ปริมาณการรับประทานน้ำตาลมีความเชื่อมโยงกับมะเร็งมดลูกหรือไม่
นักวิจัยศึกษาข้อมูลจากผู้หญิงหลายพันคนในปี 2530 พร้อมทั้งสอบถามวิธีการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร ตรวจสอบน้ำหนักและสุขภาพ และทำเช่นเดียวกันในเวลา 10 ปีหลัง
ผู้หญิงทุกคนจะถูกสอบถามว่า เติมน้ำตาลในเครื่องดื่มร้อนทั้งชาและกาแฟมากน้อยเพียงใด รวมทั้งรับประทานน้ำตาลผ่านอาหารอื่นๆ หรือไม่
เมื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสอบถามมาเปรียบเทียบกับข้อมูลสุขภาพ นักวิจัยพบว่า อาสาสมัครหญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งในระหว่างการศึกษานาน 18 ปีถึง 729 คน
แม้งานวิจัยจะพบว่า การทานอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลักบางประเภท เช่น ลูกอม น้ำหวาน น้ำอัดลม แยม เป็นต้น ไม่ก่อให้เกิดมะเร็งมดลูก แต่การทานขนมหวานประเภทเค้ก ขนมปังนุ่ม และบิสกิต มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งถึง 42%
งานวิจัยระบุถึงความบ่อยครั้งในการรับประทานขนมหวาน แต่ไม่ได้ระบุถึงจำนวนครั้งแต่อย่างใด ทว่างานวิจัยชี้ว่า การทานน้ำตาลเกินกว่า 35 กรัมต่อวัน (เทียบเท่ากับ 7 ช้อนชา) มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่เกี่ยวกับเนื้องอกเพิ่มขึ้น 36%
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า อาหารที่มีน้ำตาลสูงสร้างความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง เนื่องจากเมื่อร่างกายมนุษย์มีน้ำตาลสูงเกิน ร่างกายจะผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้นเพื่อจำกัดน้ำตาลส่วนเกิน ซึ่งส่งผลให้การเจริญเติบโตของเซลล์ในช่องคลอดผิดปกติ และนำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งในที่สุด ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า น้ำตาลจะกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีผลทำให้การเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ
ยินกา เอโบ ผู้จัดการอาวุโสแผนกข้อมูลสุขภาพจากสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งอังกฤษ แนะนำว่า การออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักสม่ำเสมอ เป็นวิธีการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งที่ดีที่สุด เธอชี้ว่า แม้งานวิจัยชิ้นนี้จะบ่งชี้ว่า การทานน้ำตาลสูงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งก็ตาม เรายังจำเป็นต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมในกลุ่มประชากรที่หลากหลาย เพื่อยืนยันข้อสรุปที่ชัดเจนได้.

จี้ สธ.รอบคอบฉีดวัคซีนมะเร็งมดลูก

http://www.thairath.co.th/content/edu/262885

24 พฤษภาคม 2555, 05:30 น.

Pic_262885

“ไฮแทป” แถลงข่าว “วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ราคานี้ยังได้ไม่คุ้มเสีย” จี้กระทรวงสาธารณสุข ให้รอบคอบในการฉีดวัคซีนมะเร็งมดลูก…

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่โรงแรมเอเชีย นพ.ยศ ตีระวัฒนานนท์ หัวหน้าโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายสุขภาพ หรือไฮแทป (HITAP) แถลงข่าว “วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ราคานี้ยังได้ไม่คุ้มเสีย” จัดโดยมูลนิธิสร้างความมั่นใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง และภาคีเครือข่าย 32 องค์กร ว่า ในเรื่องการพบมะเร็งปากมดลูกนั้น ก่อนอื่นต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า เนื่องจากกระแสข่าวที่ผ่านมามักระบุว่า มะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับสองของหญิงไทย แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว มะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยพบเป็นอันดับสาม รองจากมะเร็งเต้านม ส่วนอันดับหนึ่งคือ มะเร็งตับ โดยสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกมาจากเชื้อเอชพีวี ปัจจุบันวัคซีนจะป้องกันได้เฉพาะไวรัสชนิดที่ 16, 18 จาก 40 สายพันธุ์ และไม่สามารถป้องกันได้ 100% และไม่ได้ระบุถึงการป้องกันตลอดชีวิต

นพ.ยศกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ในราคาเข็มละ 190 บาท ต้องใช้ 3 เข็ม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ข้อมูลว่าจะฉีดในเด็กอายุ 12 ปี ประมาณ 400,000 คน ดังนั้น หากรวม จำนวนเข็มทั้งหมดที่ต้องฉีดต่อปีเท่ากับ 1,200,000 เข็ม จำนวนดังกล่าวต้องเทียบว่าคุ้มหรือไม่ ซึ่งจากการศึกษาเรื่องราคาวัคซีนและได้รับผลว่าจุดคุ้มทุนที่รัฐบาลจะสามารถจัดหาให้ประชาชนได้คือ เข็มละ 190 บาท ซึ่งทราบมาว่าต้นทุนวัคซีนดังกล่าวอยู่ที่เข็มละ 90 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกันการตรวจคัดกรองก็ยังมีความจำเป็น เพราะแม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็จะต้องมีการตรวจคัดกรองด้วย เพราะเมื่อดูประโยชน์ของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแล้วในปัจจุบันพบว่ามีสูงถึงร้อยละ 70 สูงขึ้นมากกว่าสถานการณ์ก่อน พ.ศ.2548 มาก ซึ่งในขณะนั้นมีการคัดกรองเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ดังนั้น จากปริมาณการตรวจคัดกรองที่เพิ่มขึ้นคาดว่าในอีก 5-10 ปี จะมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกลดลง 1,500 คนต่อปี ป้องกันการเสียชีวิตได้ 750 คนต่อปี ทั้งยังสามารถประหยัดงบฯในการรักษาพยาบาลปีละ 102 ล้านบาท จึงเห็นว่า สธ.ควรจะต้องมีการศึกษาความคุ้มค่าให้ชัดเจนก่อนที่จะดำเนินการโครงการนี้.

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ทีมข่าวการศึกษา
  • 24 พฤษภาคม 2555, 05:30 น.

ต้าน สธ.ฉีดวัคซีนมะเร็งมดลูก

http://www.thairath.co.th/content/edu/262322

22 พฤษภาคม 2555, 05:00 น.

Pic_262322

มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง และภาคีเครือข่ายอีก 32 แห่ง ยื่นหนังสือแก่ รมช.สาธารณสุข ขอให้ทบทวนการผลักดันนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันเอชพีวี ให้แก่เด็กหญิงอายุ 12 ปีทั่วประเทศ…

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง และภาคีเครือข่ายอีก 32 แห่ง ได้เข้ายื่นหนังสือให้แก่ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เพื่อขอให้ทบทวนการผลักดันนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันเอชพีวีให้แก่เด็กหญิงอายุ 12 ปีทั่วประเทศ โดย นพ.สุรวิทย์ได้เข้ารับหนังสือทบทวนด้วยตนเอง

ทั้งนี้ น.ส.ณัฐยา บุญภักดี กรรมการและเลขานุการมูลนิธิความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง กล่าวว่า เหตุผลในการขอให้มีการทบทวนไม่ได้หมายความว่า เครือข่ายไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีน แต่ราคาที่ สธ.กำลังจะดำเนินนโยบายที่ 500 บาทต่อเข็ม เป็นราคาที่รับไม่ได้ โดยพบว่าผลการวิจัยที่ สธ.นำมาใช้ในการคำนวณเป็นงานวิจัยของบริษัทยาที่จำหน่ายวัคซีนดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถนำผลการวิจัยดังกล่าวมาอ้างอิงได้ และจำเป็นต้องนำผลการวิจัยของโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งด้านสาธารณสุขมาประเมินร่วมด้วย

ด้าน นพ.สุรวิทย์กล่าวว่า เมื่อมีหลายฝ่ายยังเห็นว่าราคาวัคซีนไม่คุ้มค่า ก็จะเชิญทุกฝ่ายเข้าร่วมเพื่อทำความเข้าใจและนำข้อเสนอมาพิจารณาให้ตรงกัน และตั้งคณะกรรมการต่อรองราคาขึ้น เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ.

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ทีมข่าวการศึกษา
  • 22 พฤษภาคม 2555, 05:00 น.

พัฒนาวิธีตรวจสอบมะเร็งปากมดลูก รู้ล่วงหน้าเป็นปี

20 ธันวาคม 2553, 12:00 น.

พัฒนาวิธีตรวจสอบมะเร็งปากมดลูก รู้ล่วงหน้าเป็นปี.

Pic_135326

นักวิจัยมหาวิทยาลัยคอลเลจแห่งอังกฤษ ได้พัฒนาวิธีทดสอบเพื่อตรวจหามะเร็งมดลูกในสตรี รู้ผลได้ก่อนหน้าที่จะปรากฏอาการขึ้น ได้เป็นเดือนหรืออาจเป็นปี

การตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ จะตรวจพบวี่แววของเนื้อร้ายในผู้ที่รู้สึกแข็งแรงเป็นปกติดี และอาจจะใช้ตรวจคัดกรองผู้หญิงที่ตกอยู่ใต้ความเสี่ยงมากที่สุด

ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้เสนอจะใช้การทดสอบด้วยอัลตราซาวนด์เป็นพิเศษนี้ ซึ่งจะวัดความหนาของมดลูก และสร้างภาพที่จะช่วยให้แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญตรวจหามะเร็ง

ในการศึกษากับผู้หญิง 96 คน ปรากฏว่า สามารถตรวจพบมะเร็งก่อนที่จะปรากฏอาการ อย่างเช่น ตกเลือด สูงถึงร้อยละ 80

มะเร็งมดลูกมักจะเป็นกับสตรีวัยทอง    อายุระหว่าง   60-69   ปี   ที่มีฮอร์โมนเอสโทรเจน   ฮอร์โมนเพศหญิงในเลือดสูง ฮอร์โมนนี้จะลดน้อยลงขณะมีครรภ์ ดังนั้น แม่ที่มีบุตรน้อยจึงต้องเผชิญกับฮอร์โมนนี้มานานกว่า หมอเอียน จาคอบส์ หัวหน้าคณะผู้ศึกษา กล่าวว่า “ต่อไปผู้หญิงผู้ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างผู้ที่อ้วนเกิน มีบุตรน้อย หรือความดันโลหิตสูง อาจจะต้องให้ไปตรวจแบบนี้”.

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
  • 20 ธันวาคม 2553, 12:00 น.

“แปะ​ก้วย” แก้​ฉี่​บ่อย เพราะ​มดลูก​หย่อน

3 พฤษภาคม 2554, 05:00 น.
“แปะ​ก้วย” แก้​ฉี่​บ่อย เพราะ​มดลูก​หย่อน.

Pic_168384

สตรี​ หลัง​คลอด​ลูก​มัก​จะ​มี​อาการ​ปัสสาวะ​บ่อย เนื่องจาก​มดลูก​หย่อน เป็น​แล้ว​บาง​ครั้ง​ไอ​หรือ​จาม​กลั้น​ไม่​อยู่​ปัสสาวะ​ไหล​หรือ​เล็ด​ทำให้​รู้สึก​รำคาญ​มาก ซึ่ง​เกี่ยว​กับ​ปัญหา​ดัง​กล่าว​สามารถ​แก้​ได้ คือ ให้​เอา “แปะ​ก้วย” 7 เม็ด หรือ 10 เม็ด เผื่อ​เสีย เอา​ทั้ง​เปลือก​คั่ว​ไฟ​ให้​เปลือก​เกรียม​ดำ​นิดๆ จาก​นั้น​กะ​เทาะ​เปลือก​ออก​เอา​เนื้อ​ใน​ที่​มี​เยื่อ​หุ้ม​กิน​ก่อน​อาหาร​เช้า​ทุก​วัน วัน​ละ​ครั้ง​จน​ครบ 10 วัน ให้​ทำ​กิน​ต่อ​อีก 1 ครั้ง​ โดย​ขั้น​ตอน​ใน​การ​ทำ​เหมือน​เดิม แต่​ครั้ง​นี้​ให้​เอา​เยื่อ​หุ้ม​เนื้อ​ออก​กิน​จน​ครบ 10 วัน เหมือน​เดิม และ ที่​สำคัญ​ ก่อน​นอน​ต้อง​ขมิบ​ช่อง​คลอด​ช่วย​ด้วย​วัน​ละ​ไม่​ต่ำ​กว่า​ร้อย​ครั้ง อาการ​ปัสสาวะ​บ่อย​จะ​หาย​ได้ ซึ่งเม็ด “แปะ​ก้วย”แห้ง​มี​ขาย​ที่​ตลาด อ.​ต.ก.

แปะ​ก้วย หรือ GINKGO BILOBA เป็น​ไม้​ยืนต้น สูง 15-20 เมตร ใบคล้าย​ใบขึ้นฉ่าย ดอกสี​ขาว​นวล “ผล” รูป​กลม​รี​คล้ายลูก​รักบี้ เนื้อ​ใน​ผล​เป็น​สี​เหลือง มีด​อก​และ​ติด​ผล​ปี​ละ 2 หน มี​ต้น​ขาย​ที่​ตลาดนัด​ไม้​ดอกไม้​ประดับ สวนจตุจักร ทุก​วัน​พุธ-พฤหัสฯ บริเวณ​โครงการ 21 แผง “คุณ​พร้อม​พันธุ์” ราคา​สอบ​ถาม​กันเอง

ประโยชน์ ใบ “แปะ​ก้วย” ช่วย​โลหิต​หัวใจ​สมอง​หมุนเวียน บำรุง​ร่างกาย แก้​อาการ​หู​อื้อ ปวด​ศีรษะ นอน​หลับ​ไม่​สนิท ความ​จำ​เสื่อม (อัลไซเมอร์) ชะล​อ​ความ​แก่ เสริม​ภูมิ​ต้านทาน​ใน​ร่างกาย โดย​เอา​ใบ​ไป​ตาก​แห้ง​ต้ม​ครั้ง​ละ 3-12 กรัม ถ้า​เป็น​แบบ​บรรจุ​ห่อ​สำเร็จ 1 ซอง ต้ม​ได้ 5 ครั้ง สัดส่วน 1 ครั้ง ต่อ​น้ำ 3 แก้ว รับประทาน​เป็น​ประจำ​จะ​ดี​มาก ผล​ทั้ง​เปลือก 10 ผล ต้ม​ผสม​น้ำตาล​ทราย​แดง​พอ​มี​รส​หวาน​เล็กน้อย​ ดื่ม​แก้ โรค​ฉี่​บ่อย และ อาการ​ไต​ไม่​ปก​ติ​ได้

ครับ  หนังสือ “สมุน ไพร​ไม้​ดอกไม้​ประดับ​หา​ยาก” เล่ม​ที่ 5 ของ “นาย​เกษตร” สี่​สี​ทั้ง​เล่ม เนื้อหา​ภายใน​มี​สูตร​สมุนไพร​ไม้​ดอกไม้​ผล​หา​ยากมาก​กว่า 150 ชนิด ไม่​ซ้ำ​กับ​ทุก​เล่ม​ที่​ผ่าน​มา ไม่​วาง​ขาย​ที่ไหน ราคา​เล่ม​ละ 600 บาท บวก​ค่า​ส่ง​กลับ​เล่ม​ละ 30 บาท ส่ง​ธนาณัติ​ซื้อ​สั่ง​จ่าย “คุณ​นงลักษณ์ ศรี​อั​ชรา​นนท์” ตู้ ปณ.48 ปณ. สาม​แยก​ลาดพร้าว กทม. 10901 ส่วน​เล่ม​ที่ 4 ใกล้​หมด​แล้ว ระบุ​เล่ม​ที่​ต้องการ​พร้อม​ที่​ส่ง​กลับ​ให้​ชัดเจน หรือ สอบ​ถาม​ผลิตภัณฑ์​สมุนไพร ว่าน​ชัก​มด​ลูก ช่วย​ให้​มดลูก​กระชับ แก้​คาวปลา ดับ​กลิ่น​เหม็น แก้​ต่อม​ลูก​หมาก​อักเสบ ​ไส้เลื่อน​ใน​บุรุษ, ครีม​โลด​ทะน​ง​ รักษา​สิว​ฝ้า ​รู​ขุม​ขน​ตีบ​ลง, ยา​ต้ม​คลาย​เส้น​ไม้เท้า​เฒ่า​อา​ลี​ แก้​ปวด​เมื่อย ​แก้​เกาต์ ​ลด​เบาหวาน​บำรุง​ไต​ บำรุง​กำลัง, คอ​ล​ลา​เจนบริสุทธิ์​ ช่วย​ให้​ใบหน้า​กระชับ, ตรี​ผ​ลา ลด​ไข​มัน​ใน​เส้นเลือด ลด​ไต​รกลี​เซอไร​ด์, ดี​บัว​แคปซูล ช่วย​ขยาย​หลอด​เลือด​ไป​เลี้ยง​สมอง​และ​หัวใจ โทร.0–2275–2692 ครับ.

“นาย​เกษตร”

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย นายเกษตร
  • 3 พฤษภาคม 2554, 05:00 น.

แนะนำให้สุภาพสตรีใช้วิธี การออกกำลัง หนีมะเร็ง มดลูกได้

13 ตุลาคม 2553, 12:00 น.

แนะนำให้สุภาพสตรีใช้วิธี การออกกำลัง หนีมะเร็ง มดลูกได้.

Pic_118283

นักวิจัยสถาบันมะเร็งแห่งชาติของอเมริกา พบว่า สตรีที่ออกกำลังเหงื่อออกเป็นประจำ จะหนีห่างโรคมะเร็งของเยื่อบุมดลูกได้มากถึงร้อยละ 30

พวกเขาได้วิเคราะห์รายงานการศึกษาที่ได้ทำมาแล้ว 14 เรื่องด้วยกัน พบว่าการออกกำลังจะหนีห่างจากโรคนี้ เมื่อเทียบกับผู้ที่นั่งๆ นอนๆ มากระหว่างร้อยละ 20-40

รายงานผลการศึกษาตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ “วารสารมะเร็งแห่งอังกฤษ” กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์ทราบมานานแล้วว่า การออกกำลังช่วยให้ห่างโรคมะเร็งเต้านม ลำไส้ ทางเดินอาหาร และไตได้ เพราะไขมันส่วนเกินของร่างกาย มักจะก่อให้ระดับฮอร์โมนสูงขึ้น ซึ่งไปช่วยทำให้เสี่ยงกับมะเร็งสูงขึ้นอีกต่อหนึ่ง

หัวหน้าผู้เรียบเรียงรายงาน นายสตีเวน มัวร์ กล่าวว่า “เรารู้มาแล้วว่า การรักษาน้ำหนักตัวให้พอเหมาะไว้ เป็นวิธีหนีห่างโรคมะเร็งมดลูกที่สำคัญทางหนึ่ง แต่ในการศึกษานี้ยังได้พบว่า การออกกำลังยังช่วยสร้างอำนาจป้องกันของมันเองขึ้นด้วย”.

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
  • 13 ตุลาคม 2553, 12:00 น.