4เรื่องร้อนกระหน่ำ’ยิ่งลักษณ์’

4เรื่องร้อนกระหน่ำ’ยิ่งลักษณ์’

4เรื่องร้อนกระหน่ำ’ยิ่งลักษณ์’

4เรื่องร้อนกระหน่ำ’ยิ่งลักษณ์’ : ขยายปมร้อนโดยศรุติ ศรุตา

               สถานการณ์การเมืองที่เดินมาถึงวันนี้ ดูเผินๆ เหมือนกับว่า แม้จะอยู่ในภาวะลุ่มๆ ดอนๆ แต่ก็ไม่น่าจะมีอะไรมาเขย่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้พลิกคว่ำคะมำหงายลงไปได้

ทีมยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยประเมินแนวโน้มการเมืองล่าสุด ดูจะไม่ค่อยเป็นเรื่องดีเท่าใดนักสำหรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เริ่มจากการปรับ ครม. ที่แนวโน้มน่าจะมีขึ้นภายหลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากเดิมที่คาดว่าจะโละชุดใหญ่ ก็น่าจะไม่ทำอย่างนั้นแล้ว

สัญญาณที่ส่งออกไปยังรัฐมนตรีทุกคนของพรรคประหนึ่งว่า ต่อไปนี้จะดูรายละเอียดของงานที่แต่ละคนรับผิดชอบทุกเม็ด

ใครเป็นจุดอ่อนคือคนที่จะถูกปรับเปลี่ยน โดยที่การตัดสินใจให้เป็นเด็ดขาด ห้ามอุทธรณ์กันเลยทีเดียว

วิธีการแบบนี้ก็จะทำให้การปรับ ครม.ที่จะมีขึ้น น่าจะออกมาเพียงไม่กี่ตำแหน่ง

อาจไม่ถึง 10 เสียด้วยซ้ำไป

แต่ก็นั่นแหละ คนที่อกสั่นขวัญผวา ก็อาจจะนอนไม่หลับบ้าง

ดูอย่าง ขวัญชัย ไพรพนา แกนนำแดงอุดรฯ ที่มักจะอ้างเสมอว่า “สายตรง” ถึง “นายใหญ่” ที่ดูไบได้ทุกเมื่อ จู่ๆ ก็ออกมาบอกว่า ไม่ควรที่จะปรับ “สารวัตรดาวเทียม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกจากตำแหน่ง

ไม่รู้ว่าแท้หรือเทียม แต่มิตรย่อมห่วงมิตร !

เพราะเมื่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ สายที่ตรงเสียยิ่งกว่าตรงกับ “หญิงอ้อ” ผู้มีบารมีในพรรคเพื่อไทย เปิดตัวสมัครเป็นสมาชิกพรรคอย่างเอิกเกริก ก็ย่อมทำให้จิตใจหวั่นไหวกันบ้างเป็นธรรมดา

เรื่องที่หนักอกหนักใจของรัฐบาลในเวลานี้กลับเป็น “โครงการจำนำข้าว” ที่นับวันจะทำให้รัฐนาวาที่ลอยปริ่มน้ำอยู่ค่อยจมลงเพราะโดนทั้งแรงคลื่นกระหน่ำซัดจากหลายทิศหลายทาง และน้ำหนักข้าวที่รับจำนำเพิ่มขึ้นทุกปี

นับแต่วันที่ยิ่งลักษณ์ แถลงร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าทำ “เอ็มโอยู” แล้วแก้เป็นการทำ “สัญญา” ขายข้าว 7 ล้านกว่าตันนั่น จนป่านนี้คนในวงการค้าข้าวทั้งหลายยังไม่มีใครรู้เรื่องรู้ข่าวว่า ขายให้ใคร ขายเมื่อไหร่ ได้ราคาหรือเปล่า

เช่นเดียวกับคนในกระทรวงพาณิชย์ที่ยังใบ้กิน อ้างอย่างเดียวว่าเป็นความลับ

ชัดเจนอยู่เรื่องเดียวว่า รมว.กลาโหม สั่งทุกเหล่าทัพ เปิดพื้นที่เพื่อใช้เป็นโกดังเก็บข้าว !

คนเขาอยากรู้ อยากถามว่า ถ้าขายได้แล้วจะเก็บไว้ทำไม ?

ถ้าขายไม่ได้แล้วมาโกหกกันทำไม ?

คนอีกกลุ่มก็จะถามว่า ทำไมถึงเอาเงินภาษีของคนทั้งประเทศอุ้มชาวนาเพียงกลุ่มเดียว พืชผลการเกษตรชนิดอื่นทำไมไม่ทำแบบนี้บ้าง ?

แต่ที่ถามกันหนักๆ ก็คือ จากนอกประเทศซึ่งกำลังลุกลามใหญ่โต เพราะมีฝรั่งเริ่มตั้งคำถามแล้วว่า ไอ้วิธีการตั้งราคารับจำนำข้าวแพงกว่าตลาด แล้วเอาไปเก็บไว้ในโกดังนั้น มันขัดต่อกฎการค้าโลก ที่องค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) เป็นขาใหญ่คุมเกือบทั้งโลกนั่นหรือไม่

ยังไม่นับรวมเรื่องโกงทุกขั้นตอนที่ฝ่ายค้านกำลังจะลากไส้ในต้นเดือนหน้าอีก

ไม่นับเรื่องที่ ส.ว.ยื่นให้ตีความว่านโยบายนี้ข้อต่อรัฐธรรมนูญอีก

แต่ละดอกล้วนหนักหน่วงทั้งนั้น !

เรื่อง “ชายชุดดำ” นี่ก็เป็นอีกเรื่อง ขนาดดีเอสไอที่ว่าแน่ เพราะมี ธาริต เพ็งดิษฐ์ นั่งคุมอยู่ สุดท้ายก็ไม่รู้จะออกทางไหน ในเมื่อผลพิสูจน์ชัดว่า กระสุนปืนที่สังหารนักข่าวญี่ปุ่นและทหารนั่นมาจากปืนอาก้า ไม่ใช่ เอ็ม 16 ที่ทหารใช้

การอนุมัติจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้รายละล้านก็เลยดูจะเป็นทางออกที่ดี

แต่มันเท่ากับทำให้ชาวบ้านเขาเชื่อว่า ชายชุดดำมีจริง

แล้วก็ชายชุดดำนี่แหละที่เป็น “ตัวเปิด” และเป็นต้นเหตุความรุนแรงตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2553

ถึง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ ในวันนี้ และเป็นแกนนำแดงในตอนนั้นจะพยายามท้านั่นท้านี่ ท้า สุเทพ เทือกสุบรรณ โต้วาที ก็เป็นเพียงการใช้โวหารเท่านั้น เพราะสุเทพไม่ให้ราคาขึ้นมาเทียบรุ่น

ขณะที่เรื่อง “ไซฟ่อนเงิน” ที่มีคนปูดออกมาจนฮือฮากันทั้งประเทศนั้น ความจริงน่าทำโพลล์สำรวจความเห็นกันบ้างก็ดีว่า เรื่องนี้ ชาวบ้านเขาเชื่อไหมว่ามีจริง หรือไม่จริง

ถึง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จะยืนยันว่าไม่มี คนในหน่วยงานที่เกี่ยวกับการตรวจสอบการฟอกเงินก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน แต่คนที่ชอบจับแพะชนแกะ ชอบต่อจิ๊กซอว์เขาก็คงให้ได้เต็มที่ แค่ลดน้ำหนักฝั่งโน้นลงแล้วฟังหูไว้หู

เพราะก่อนหน้านี้เชื่อไปแล้วเกือบ 100%

เพราะเรื่องรับงานประสานงานมันมีคนในพรรคใหญ่ชื่อ “ส.เสือ” เขาบริหารจัดการให้ “เจ๊ อ.-เจ๊ ด.” อย่างมืออาชีพ

บังเอิญว่า ส.เสือ ที่ว่า มีบริษัทอยู่ฮ่องกง !

พอมาลงตรงนี้เลยดูเหมือนจะกลายเป็นปมให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูกขยายให้ร้อนในช่วงปลายฝนต้นหนาว

………

(หมายเหตุ : 4เรื่องร้อนกระหน่ำ’ยิ่งลักษณ์’ : ขยายปมร้อนโดยศรุติ ศรุตา)

ใส่ความเห็น