สาแหรก “สันติ-จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี”

20 ธันวาคม 2556 เวลา 16:28 น. …. อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1fKFwT9

สาแหรก “สันติ-จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี”

โดย…วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย

เมื่อจดหมายของคุณสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) ที่มีไปถึงนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) บิดาของ จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี นักการเมืองสาวผู้กำลังจะเป็นดาวรุ่งรุ่นใหม่ที่มีอนาคตไกลของพรรคประชาธิปัตย์ ถูกเผยแพร่ออกไปความว่า

“ถึง นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี

จากการที่ได้พูดคุยกันหลายครั้งและได้เสนอข้อแนะนำต่าง ๆ ให้กับจุตินันท์ เกี่ยวกับบทบาททางการเมืองของจิตภัสร์ ที่จะส่งผลต่อองค์กรและตระกูลภิรมย์ภักดี ทั้งในปัจจุบันและอนาคต แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใด ๆ กระทั่งองค์กรและตระกูลถูกนำเข้าไปเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ไม่ว่าผลจากสถานการณ์การเมืองครั้งนี้จะออกมาอย่างไร และส่งผลกระทบต่อองค์กรและตระกูลมากน้อยแค่ไหน ในฐานะกรรมการผู้จัดการใหญ่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอชี้แจงถึงจุตินันท์ด้วยหนังสือฉบับนี้ ให้รับทราบว่าที่ผ่านมาได้เคยเตือนและให้คำแนะนำกับจุตินันท์แล้ว

ลงชื่อ สันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่”

ผู้คนจำนวนมากจึงให้ความสนใจอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ของผู้คนตระกูลนี้ว่า มีความเป็นมากันอย่างไรและใครเป็นใครในตระกูลภิรมย์ภักดี ตระกูลเศรษฐีระดับต้น ๆ ของเมืองไทยซึ่งเจ้าของกิจการเบียร์สิงห์อันเลื่องชื่อมาช้านาน

ต้นตระกูลภิรมย์ภักดี คือ พระยาภิรมย์ภักดี เป็นผู้บุกเบิกรุ่นแรกของบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด โดยการสร้างโรงเบียร์ขึ้นที่สามเสน

พระยาภิรมย์ภักดี มีภรรยาคนแรกชื่อคุณหญิงละม้ายมีบุตรฝาแฝดคู่หนึ่งและบุตรอีกคนหนึ่งแต่ได้เสียชีวิตลงทั้ง 3 คน พระยาภิรมย์ภักดีจึงได้รับบุตรของน้องชาย คือ พระประเวศนวขันธ์ (ปลื้ม ภิรมย์ภักดี) มาเป็นบุตรบุญธรรมชื่อ วิทย์ ภิรมย์ภักดี ต่อมาพระยาภิรมย์ภักดีมีบุตรกับภรรยาชื่อกิม ได้ชื่อว่า ประจวบ ภิรมย์ภักดี และมีบุตรกับภรรยาที่ชื่อจิ้มลิ้ม คือ จำนงค์ ภิรมย์ภักดี

ภายหลังจากที่พระยาภิรมย์ภักดี เสียชีวิตลง ประจวบ ภิรมย์ภักดี ซึ่งจบการศึกษาทางด้านผลิตเบียร์มาจากประเทศเยอรมันนีและได้ชื่อว่าเป็นบริวมาสเตอร์คนแรกของเมืองไทย ก็ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริษัท มี วิทย์ ภิรมย์ภักดี เป็นรองประธานรับผิดชอบทางด้านการตลาด และจำนงค์ ภิรมย์ภักดี เป็นกรรมการบริษัทฯ รับผิดชอบทางด้านบัญชี

เมื่อประจวบ ภิรมย์ภักดี ยุติบทบาทลงในปี 2536 ทายาทรุ่นที่ 3 คือ ปิยะ ภิรมย์ภักดี บุตรชายคนโตของประจวบ ซึ่งจบการศึกษาทางด้านการผลิตเบียร์จากสถาบันเดียวกันกับบิดา และได้ชื่อว่าเป็นบริวมาสเตอร์ คนที่ 2 ของเมืองไทยก็ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทฯ ดูแลรับผิดชอบด้านการผลิต สันติ ภิรมย์ภักดี น้องชายดูแลด้านการตลาดการขายและโฆษณา ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดขายและโฆษณา

ส่วนวิทย์ ภิรมย์ภักดี มีบุตรชาย 2 คน คือ วุฒา ภิรมย์ภักดี รับผิดชอบดูแลด้านโรงงานและเครื่องจักร กับ วาปี ภิรมย์ภักดี รับผิดชอบดูแลเรื่องการขายต่างประเทศ วิทย์มีบุตรสาวคนสำคัญคือท่านผู้หญิง สุวรี เทพาคำ อดีตนางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดีและรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท ด้วยความไว้วางพระราชหฤทัยจนตลอดชีวิต

สำหรับ จำนงค์ ภิรมย์ภักดี มีบุตรชายเพียงคนเดียวคือ จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี รับผิดชอบดูแลทางด้านบัญชี เมื่อสันติ ภักรมย์ภักดี ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ก็ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) มีโรงงาน 7 โรงตั้งอยู่ทั่วประเทศมีกำลังผลิตเบียร์ โซดา และน้ำดื่มรวมมากกว่า 1,000 ลิตร มีบริษัทในเครือกว่า 20 บริษัทโดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มบริษัทใหญ่ คือ กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสาธารนูปโภค และกลุ่มร้านอาหาร

ในขณะที่การเมืองกำลังเข้มข้น สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ประกาศสละตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่ง ออกมานำประชาชนลุกขึ้นต่อต้าน การทุจริตฉ้อฉลของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี บุตรสาวคนเก่งของ จุตินันท์ และหม่อมหลวงปิยาภัสร์ (กฤษดากร) ภิรมย์ภักดี บัณฑิตสาขาวิชาภูมิศาสตร์ และมหาบัณฑิตทางกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยรีเจนท์ส คอลเลจ ประเทศอังกฤษ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ เขตดุสิต ก็ได้ตัดสินใจเข้าร่วมทำงานกับสุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยความมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง เด็ดเดี่ยว และมั่นคง ฉายให้เห็นแววของนักการเมืองรุ่นใหม่ที่เป็นความหวังของการเมืองไทยอนาคต

แต่แล้วก็มีจดหมายของคุณสันติ ภิรมย์ภักดี ที่อ้างถึงความเป็นผู้ใหญ่ขององค์กรออกมา แสดงความหวั่นเกรงว่าบทบาทการต่อสู้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมกับความอยู่รอดของบ้านเมืองของ จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี จะเป็นเรื่องการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลนั้น ทำให้ผู้คนที่มีสำนึกดีในสังคมแปลกใจและสงสัยงุนงงเป็นอันมาก

เพราะไม่อาจเข้าใจได้เลยว่า คุณสันติ ภิรมย์ภักดี มีความวิตกหวั่นเกรงผลกระทบอะไร ในเมื่อการต่อสู้ของ จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ในครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพื่อให้เกิดความถูกต้องดีงามในชาติบ้านเมือง อันเป็นสิ่งที่ผู้คนในตระกูลภิรมย์ภักดี ควรจะภาคภูมิใจ

แน่นอนในฐานะที่คุณสันติ ภิรมย์ภักดี เป็นผู้ใหญ่ซึ่งมีความสำคัญในตระกูลภิรมย์ภักดี คุณสันติมีสิทธิ์ที่จะแสดงจุดยืนของตนเองได้อย่างเต็มที่ แต่คุณสันติไม่มีสิทธิ์ที่จะไปละเมิดหรือบีบบังคับผู้อื่นในตระกูล ที่เขามีสิทธิ์ในความเป็นภิรมย์ภักดีไม่น้อยไปกว่าคุณสันติ

การตอกย้ำของจิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ที่ว่า “ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่ทุกคนเลือกที่จะรักชาติรักสถาบันพระมหากษัตริย์และทำในสิ่งที่ถูกต้องเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองได้” นั้น น่าจะปลุกจิตสำนึกให้คุณสันติระลึกได้ว่าโคตรตระกูลภิรมย์ภักดี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมมาเป็นเวลาช้านาน การที่มีลูกหลานในตระกูลแสดงความกล้าหาญออกไปสู้กับนักการเมืองที่ประจักษ์ชัดในพฤติกรรมแล้วว่า มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่ทำลายล้างคุณงามความดีทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านเมืองนี้ ทำลายแม้กระทั่งสถาบันสูงสุดอันเป็นที่เคารพเทิดทูนของปวงชนชาวไทยและมีบุญคุณอย่างใหญ่หลวงกับตระกูลภิรมย์ภักดี นั้นไม่ใช่เรื่องผิด

และถ้าวันนี้หากท่านผู้หญิงสุวรี เทพาคำ ยังมีชีวิตอยู่เชื่อเหลือเกินว่า คุณสันติ ภิรมย์ภักดี จะถูกถามด้วยถ้อยคำที่ทำให้เจ็บลึกไปถึงหัวใจว่า

ตุ่ม (ชื่อเล่นของคุณสันติ) เธอทำเช่นนี้ทำไม เธอเสียสติไปแล้วหรือ

สุุทิน-จิตรา คล้ายมนต์

ใส่ความเห็น