4 สิงหาคม 2554, 19:46 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/191606.

อาเซียนเชิญสหรัฐฯ-รัสเซีย ร่วมแจมหวังขยายกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ–การค้า จากอาเซียน+6 เป็น +8 ส่งผลดีส่งออก เกษตร อุตสาหกรรม ไทย ตีตลาดเสรีทั่วโลก…
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (เออีเอ็ม) และการประชุมคณะมนตรีเขตการค้าเสรีอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 9-13 ส.ค.นี้ว่า อาเซียนได้เชิญตัวแทนจากสหรัฐฯ และรัสเซีย เข้ามาหารือในเวทีการของประเทศเอเชียตะวันออก เพื่อขยายกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจจาก 16 ประเทศ หรืออาเซียนบวก 6 (อาเซียน 10 ประเทศ รวมกับจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) เพิ่มเป็น 18 ประเทศ หรือเป็นอาเซียนบวก 8 ซึ่งจะทำให้กรอบการเปิดเสรีอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาขยายวงกว้างขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจการค้าของอาเซียนและไทย
“จะพบกับผู้แทนการค้าของ สหรัฐฯ และรมว.พัฒนาการเศรษฐกิจรัสเซีย เพื่อแสวงหาแนวทางส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน โดยสหรัฐฯ และรัสเซีย ถือเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ หากอาเซียนขยายความร่วมมือ จะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสขยายการส่งออกแก่ไทยได้ ทั้งสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรม” นายยรรยง กล่าว
นอกจากนี้ ในการประชุมยังจะมีการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการเขตการค้าเสรีอาเซียน เช่น การลด/เลิกอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี และการดำเนินมาตรการด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า เป็นต้น.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 4 สิงหาคม 2554, 19:46 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
26 กรกฎาคม 2554, 01:16 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/189073.

ปลัดกระทรวงคมนาคมยันรถไฟฟ้าไทยแอร์พอร์ตลิงก์ปลอดภัย มีระบบจ่ายไฟ 2 ระบบ โอกาสชนแบบหัวกระสุนจีนเกิดได้ยาก…
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีรถไฟหัวกระสุน ซึ่งมีความเร็วสูงพุ่งชนท้ายกัน 2 ขบวนที่ประเทศจีน หลายฝ่ายเกรงว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ของไทย ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูง จะประสบเหตุเช่นกัน เนื่องจากเคยเกิดปัญหาขัดข้องเครื่องดับระหว่างทางนั้นเชื่อว่า จะไม่เกิดขึ้นกับไทยแน่นอน เนื่องจากตามปกติขบวนรถไฟฟ้าของไทย แต่ละขบวนจะมีระยะเวลาในการทิ้งห่างกันเช่น รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะทิ้งห่างปล่อยขบวนรถทุกๆ 15 นาทีหากเกิดปัญหาขัดข้องสามารถสั่งเบรก หรืออยู่ในรัศมีที่จะเบรกขบวนรถได้ทัน และห้องควบคุมการเดินรถ จะมีการประสานงานกันตลอดเวลาอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นในจีนคงจะต้องรอสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะโดยปกติของรถไฟฟ้าของไทยจะต้องมีระบบจ่ายไฟจาก 2 ทาง หรือ 2 ระบบ เพื่อป้องกันปัญหาว่า หากระบบไฟจากแหล่งหนึ่งขัดข้อง สามารถใช้ระบบไฟสำรองจากอีกแห่งเข้ามาทดแทน รวมทั้งเมื่อเกิดเหตุขัดข้องที่จุดใด ห้องควบคุมระบบจะสามารถมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของแนวเส้นทางได้ และจะต้องสั่งหยุดขบวนรถทั้งหมดเพื่อทำการตรวจสอบก่อน หรือสามารถประสานสั่งหยุดขบวนรถไฟอื่นๆ ให้เลี่ยงในจุดที่เป็นปัญหาได้
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการหารือร่วมกับนายอากิรา โยเนซารา รองอธิบดีด้านวิศวกรรมและการรถไฟ ของญี่ปุ่นว่าทางการญี่ปุ่นสนใจที่จะเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ และกรุงเทพ-ระยอง เส้นทางกว่า 800 กม. มูลค่าโครงการกว่า 230,000 ล้านบาท ซึ่งญี่ปุ่นมีความชำนาญในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงอย่างมาก ซึ่งขณะนี้เป็นเพียงการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ช่วงที่มีการทดสอบการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มีปัญหาทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง แต่ไม่มีปัญหาที่รถอีกขบวนจะวิ่งเข้ามาพุ่งชนได้ เพราะระบบจะหยุดทำงาน หรือหากเข้ามาใกล้ในรัศมีที่ตรวจได้ จะมีการเบรกขบวนรถ ซึ่งจะอยู่ในรัศมีที่สามารถเบรกขบวนรถได้ทัน หากระบบไฟฟ้าขัดข้องจริงๆ ทาง รฟท.มีการเตรียมแผนสำรองในการใช้ระบบแมนนวล หรือใช้ระบบโทรศัทพ์ในการติดต่อสื่อสารได้ทัน เพราะแต่ละขบวนรถมีระยะเวลาทิ้งช่วงห่างอยู่แล้ว.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 26 กรกฎาคม 2554, 01:16 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
25 กรกฎาคม 2554, 01:44 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/188817.

พณ.ยื่นโครงสร้างต้นทุน 10 สินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ พร้อมแนวทางคุมราคาให้รัฐบาลใหม่พิจารณา ลดค่าครองชีพประชาชนตามนโยบายหาเสียง…
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดส่งโครงสร้างต้นทุนสินค้า 10 รายการ ได้แก่ หมู ไก่ ไข่ไก่ เนื้อวัว กุ้ง น้ำมันปาล์ม น้ำตาล ข้าวสารบรรจุถุง อาหารจานเดียว และผักผลไม้ พร้อมทั้งมาตรการและแนวทางกำกับดูแล ไปยังทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว หลังจากที่ได้ขอมาเพื่อไปจัดทำมาตรการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชนตามนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง
“กระทรวงฯ ได้เสนอรายละเอียดของโครงสร้างต้นทุนสินค้าทั้ง 10 รายการว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และหากต้องการที่จะดึงหรือชะลอไม่ให้สินค้าเหล่านี้ปรับขึ้นราคา จะมีวิธีการดำเนินการอะไรบ้าง ซึ่งมีทั้งส่วนที่กระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการได้เอง และส่วนที่รัฐบาลจะต้องตัดสินใจในระดับนโยบาย” นายยรรยง กล่าว.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 25 กรกฎาคม 2554, 01:44 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
22 กรกฎาคม 2554, 02:49 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/188163.

“สุพจน์” ตั้ง คกก.ระดับกระทรวงเพื่อติดตามงานโครงการของกระทรวง คมนาคมขึ้น เพื่อคุมงบออกแบบโครงการขนาดใหญ่ ชี้แอร์พอร์ตลิงก์จุดบอดใหญ่เกินความจำเป็นเปลืองงบประมาณ…
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เพื่อติดตามการดำเนินการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพู ม่วง และส่วนต่อขยาย รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแอร์พอร์ตลิงก์ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่โดยเฉพาะตัวสถานีแต่ละแห่งที่มีขนาดใหญ่โตเกินความจำเป็น และมีลักษณะเป็นสถานีปิด ทำให้ร้อนอากาศไม่ถ่ายเท และไม่สะดวกในการใช้บริการของประชาชน ต่างจากการออกแบบของโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส ของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันที่ได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสม เน้นประโยชน์ใช้สอยอย่างคุ้มค่า
ดังนั้น จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการระดับกระทรวงเพื่อติดตามงานโครงการของกระทรวง คมนาคมขึ้น โดยตนจะทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าวเอง เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทที่ปรึกษามักจะออกแบบก่อสร้างโครงการต่างๆ มาให้ เป็นโครงการขนาดใหญ่เกินความจำเป็นเพื่อหวังผลประโยชน์ด้านค่าตอบแทนทำให้หน่วยงานรัฐสิ้นเปลืองงบประมาณไปอย่างเปล่าประโยชน์ แต่การมีคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาก็จะทำให้โครงการต่างๆ มีขนาดที่เหมาะสม มีพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่าด้านการลงทุนและผลตอบแทนมากยิ่งขึ้น และไม่ก่อให้เกิดปัญหาการขาดทุนภายหลัง
“โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าบริษัทที่ปรึกษาออกแบบมายังไงหน่วยงานราชการก็จะอนุมัติตามนั้นโดยไม่ได้ดูสภาพความเป็นจริงและประโยชน์ใช้สอย ทำให้ใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่าเปลืองงบประมาณก่อสร้างไปอย่างเปล่าประโยชน์ โดยเฉพาะโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ที่มีขนาดใหญ่โตแต่มีรายได้ไม่เข้าเป้า หาเอกชนเข้ามาลงทุนได้ยากเพราะมีบางสถานีเท่านั้นที่เอกชนสนใจมาเช่าพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)จะสอบถามความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมการในสัปดาห์หน้า” นายสุพจน์ กล่าว.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 22 กรกฎาคม 2554, 02:49 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
31 พฤษภาคม 2554, 05:00 น.
“อารีพงศ์”สั่งพีอาร์คลังรวบรวมข้อมูลโครงการหาเสียงบั่นทอนงบประมาณ!.

“อารีพงศ์” สั่งพีอาร์คลังรวบรวมข้อมูล โครงการหาเสียงของทุกพรรคการเมือง หวั่น บั่นทอนงบประมาณมหาศาล อัดยังไม่มีพรรคการเมืองใด เน้นปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืน…
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกระทรวงการคลังรวบรวมนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมในฝั่งของกระทรวงการคลังไว้ล่วงหน้า เนื่องจากนโยบายสำคัญๆ ของทุกพรรคเมือง ล้วนแต่เป็นโครงการที่ใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาล ทำให้กังวลว่าหากมีการนำนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะกลายเป็นภาระต่องบประมาณในอนาคต ขณะที่ยังไม่มีพรรคใดพูดถึงเรื่องการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศไทยเดินต่อไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน
นายอารีพงศ์ กล่าวว่า บางพรรคการเมืองพูดถึงการใช้เงินถึง 10 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า ขณะที่บางพรรคบอกว่าจะดำเนินนโยบายทั้งประกันรายได้และโครงการรับจำนำ ซึ่งเข้าใจว่ากระทรวงเกษตรฯเองก็ยังไม่มีข้อมูลที่จะระบุว่าโครงการไหนดีกว่ากัน ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองประกาศว่าจะลดภาษีมูลค่าเพิ่มจากปัจจุบัน 7% เหลือเพียง 5% ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เพราะหากมีการลดภาษีลงขนาดนั้นจริง ก็จะส่งผลให้การจัดเก็บรายได้และฐานะการคลังแน่นอน เนื่องจากรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา มีการตั้งงบประมาณขาดดุลหลายปีติดต่อกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เม็ดเงินของรัฐบาลที่ใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรพืช 3 ชนิดคือข้าว ข้าวโพดและมันสำปะหลัง จนถึงปัจจุบันใช้งบประมาณไปเกือบ 60,000 ล้านบาท และคาดว่าจะใช้อีกไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท กับข้าวนาปีที่กำลังเริ่มฤดู รวมเป็นเม็ดเงินกว่า 100,000 ล้านบาท.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 31 พฤษภาคม 2554, 05:00 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
2 พฤศจิกายน 2553, 19:30 น.
ครม.แต่งตั้ง\’วิบูลย์ทัต\’ผอ.สำนักงานสถิติฯคนใหม่ – ข่าวไทยรัฐออนไลน์.

ครม. ตั้ง”วิบูลย์ทัต” ผอ.สำนักงานสถิติคนใหม่ “บุญนริศร์” นั่งรองปลัด พณ. ตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาการทุ่มตลาดอีก 3 คน …
วันที่ 2 พย. นพ.มารุต มัสยวานิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้ง น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.53 พร้อมกันนี้ได้ อนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งนายธวัชชัย โสภาเสถียรพงศ เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ และให้ นายกฤษฎาเปี่ยมพงศ์สานต์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก และนายบุญนริศร์ สุวรรณพูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงพาณิชย์
รวมทั้งได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน จำนวน 3 คน เนื่องจาก ชุดเดิมครบตามวาระคือ นายวัลลภ อารีรบ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเกษตร นายชาญชัย สิงห์โตโรจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการค้าระหว่างประเทศ และนางพฤติพร เนติโพธิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. 2553
ขณะเดียวกัน ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ รองปลัดกระทรวง เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ และ นายวรพัฒน์ ทิวถนอม ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ นอกจากนี้ ครม.แต่งตั้งตามที่กระทรวงการคลังเสนอกรรมการอื่นในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลต่ออีกวาระหนึ่ง ได้แก่ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ และนายฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 2 พฤศจิกายน 2553, 19:30 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
29 ตุลาคม 2553, 06:15 น.
ไทยลุ้น “บีโอไอแฟร์ 2011” กระหึ่มลั่น ทุ่มเต็มเหนี่ยวสร้างภาพพจน์.

ไทยลุ้น “บีโอไอแฟร์ 2011” กระหึ่มลั่น ทุ่มเต็มเหนี่ยวสร้างภาพพจน์ จีบบิ๊กนักธุรกิจทั่วโลกแห่ลงทุน พร้อมจัดสถานที่พิเศษเพื่อสนับสนุนให้เกิดการจับคู่ธุรกิจระหว่างนักลงทุนแต่ละประเทศที่มาร่วมงาน…
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่การประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานนิทรรศการบีโอไอแฟร์ 2011 ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีมติเห็นชอบรูปแบบการจัดงานนิทรรศการบีโอไอแฟร์ 2011 เป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 10-25 พ.ย.2554 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในฐานะหน่วยงานหลัก ก็จะเริ่มเดินหน้าการจัดงานได้ทันที โดยรัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณกลาง 100 ล้านบาท และใช้งบประมาณจากบีโอไอสนับสนุนอีก 80 ล้านบาท
“นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น รัฐบาลก็จะมีการจัดงานซีอีโอฟอรั่ม (CEO Forum) โดยจะเชิญผู้บริหารระดับประธานผู้บริหารบริษัทชั้นนำยักษ์ใหญ่ ของทั่วโลกเข้ามาร่วมงาน โดยเบื้องต้นได้มีการทาบทามอย่างไม่เป็นทางการกับหลายบริษัท ซึ่งผู้บริหารต่างๆได้ทยอยตอบรับคำเชิญจากรัฐบาลแล้ว อาทิ ผู้บริหารของโตโยต้ามอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น มิตซูบิชิมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น จึงคาดว่าจะมีผู้บริหารระดับสูงหลายร้อยคนจากทั่วโลกมาร่วมงานดังกล่าว”
นายวิฑูรย์กล่าวว่า สำหรับรูปแบบของงานบีโอไอแฟร์ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ คือ “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ “Going Green for the Future” โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยไปพร้อมๆกันด้วย
“ในส่วนของพื้นที่จัดงานจะประกอบด้วยพาวิลเลี่ยนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนพื้นที่เอกชนที่จะจัดแสดงนิทรรศการต่างๆจะแบ่งเป็น 2 โซนที่สำคัญ คือ โซนที่ 1 พาวิลเลี่ยนขนาดใหญ่ที่เป็นกลางแจ้ง 84 พาวิลเลี่ยน ซึ่งจะเปิดให้ภาคเอกชนจองพื้นที่สร้างพาวิลเลี่ยนแห่งละ 1 ล้านบาท โดยเน้นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยโชว์ศักยภาพด้านเทคโนโลยีต่างๆ และโซนที่ 2 จะเป็นบูธในอาคาร (อินดอร์) ขนาด 5-5 เมตร ประมาณ 3,000 แห่ง เปิดให้จองราคาเฉลี่ย 30,000-50,000 บาท ซึ่งโซนนี้หลักๆจะถูกจัดไว้เพื่อโชว์ศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ของไทย และผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนที่เป็นผลิตภัณฑ์ 5 ดาว รวมถึงพื้นที่จำหน่ายสินค้าต่างๆของผู้ประกอบการที่สนใจ และระหว่างการจัดงานดังกล่าวก็จะมีการจัดสถานที่พิเศษเพื่อสนับสนุนให้เกิดการจับคู่ธุรกิจระหว่างนักลงทุนแต่ละประเทศที่มาร่วมงาน โดยจะเน้นให้เกิดการร่วมลงทุนระหว่างนักลงทุนไทยกับต่างชาติในอุตสาหกรรมที่คนไทยมีความชำนาญ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนสินค้าเอสเอ็มอี เป็นต้น”.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 29 ตุลาคม 2553, 06:15 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
29 ตุลาคม 2553, 05:45 น.
อุตฯจี้ผู้ผลิตอาหารเครื่องดื่มคลายสต๊อก หวังแก้ปัญหาราคาน้ำตาลแพงเกินจริง – ข่าวไทยรัฐออนไลน์.

ปลัดอุตฯหารือโรงงานน้ำตาลแก้ปัญหาราคาแพงเกินจริง พร้อมขอความร่วมมือให้ไปตรวจสอบสัญญาซื้อขายน้ำตาลกับผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และขอให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มคืนสัญญาน้ำตาลปีนี้ที่ใช้ไม่หมด เพื่อให้โรงงานน้ำตาลนำไปจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป…
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการหารือกับโรงงานน้ำตาลรายใหญ่ 4 ราย คือ กลุ่มมิตรผล กลุ่มไทยรุ่งเรือง กลุ่มไทยเอกลักษณ์และกลุ่มเคเอสแอล เกี่ยวกับน้ำตาลค้างกระดานหรือน้ำตาลที่เหลือจากการจำหน่ายในแต่ละงวดจำนวนมาก โดยกระทรวงอุตสาหกรรมต้องการให้โรงงานน้ำตาลระบายน้ำตาล เพื่อให้ราคาน้ำตาลในตลาดผู้บริโภคลดลง เพราะขณะนี้ยังพบว่าบางพื้นที่ราคาน้ำตาลยังสูงกว่าราคาควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้ขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำตาลไปตรวจสอบสัญญาซื้อขายน้ำตาลกับผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และขอให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มคืนสัญญาน้ำตาลปีนี้ที่ใช้ไม่หมด เพื่อให้โรงงานน้ำตาลนำไปจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งโรงงานน้ำตาลพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และสัปดาห์หน้าจะเชิญโรงงานน้ำตาลที่เหลือมาหารือด้วย นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มจำนวนน้ำตาลของ กท.เข้าสู่ตลาดในประเทศจากเดิมสัปดาห์ละ 50,000 กระสอบ เป็น 70,000-80,000 กระสอบ เพื่อให้มีน้ำตาลเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
ด้านนายพงษ์เทพ จารุอำพรพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า น้ำตาลค้างกระดานกว่า 70% เป็นน้ำตาลที่ภาคอุตสาหกรรมทำสัญญาไว้กับโรงงาน ทำให้ไม่สามารถนำน้ำตาลค้างกระดานมาจำหน่ายได้ เพราะมีการประเมินตัวเลขการใช้น้ำตาลไว้สูงมาก เนื่องจากกังวลว่าน้ำตาลจะขาดแคลน ประกอบกับในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาอากาศร้อนมาก มีการแข่งขันฟุตบอลโลกทำให้อาหารและเครื่องดื่มขายดี ส่งผลให้ความต้องการน้ำตาลสูงขึ้น ทำให้ห่วงน้ำตาลขาดแคลนช่วงปลายปี.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 29 ตุลาคม 2553, 05:45 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...
29 ตุลาคม 2553, 04:44 น.
ทอท.อมพะนำความจริง ปมสัญญาจอดรถฉาว! – ข่าวไทยรัฐออนไลน์.

ทอท.ไม่สามารถแจงรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานฯที่จอดรถสนามบินได้ครบถ้วนทำให้ไม่สามารถสรุปผลการพิจารณาได้ ต้องรอเอกสารอีกครั้ง…
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบการบริหารพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่เกี่ยวกับการคมนาคมขนส่ง เผยว่า จากที่เชิญผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.มาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานประกอบกิจการบริหารจัดการอาคารและลานจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศสุวรรณภูมิ รวมถึงชี้แจงข้อกล่าวหาที่ผู้บริหารบริษัท ปาร์คกิ้ง แมนเนจเมนท์ ทำหนังสือร้องเรียนมายังคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ว่าเจ้าหน้าที่ ทอท.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น ทาง ทอท.ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ครบถ้วน ทำให้ไม่สามารถสรุปผลการพิจารณาได้ คงต้องรอให้ ทอท.ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดและเอกสารหลักฐานมาให้คณะกรรมการอีกครั้ง
ส่วนกรณีที่การดำเนินการของ ทอท.โดยไม่ได้ รายงานต่อกระทรวงคมนาคมนั้น ทางคณะกรรมการจะพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งการพิจารณานั้นจะต้องดูเจตนาเป็นสำคัญ ทั้งนี้ คาดว่าในวันที่ 1 พ.ย. นี้จะสรุปผลการพิจารณาเรื่องดังกล่าวและรายงานให้นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ในวันที่ 5 พ.ย.นี้.
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
- 29 ตุลาคม 2553, 04:44 น.
13.874246
100.669851
Like this:
ถูกใจ กำลังโหลด...