ตั้งคำถามอย่างนี้ “ใช้ยาแบบชาวบ้านผสมผสานได้หรือไม่” ตอบได้เดี๋ยวนี้เลยโดยไม่ต้องรีรอ
ได้ซีครับ ไม่ได้ ได้อย่างไร ก็นี่แหละคือคำถามที่ผมทิ้งท้ายไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนไงครับ ว่ายาแก้โรคบิดหรือฆ่าเชื้อบิดนั้น มีแต่ยาแผนปัจจุบัน คือยาประเภทปฏิชีวนะอย่างเดียวหรืออย่างไร
ในเมื่อโรคบิดเป็นโรคโบราณซึ่งมีมานับเป็นร้อยๆปีหรือพันปีมาแล้ว ส่วนยาประเภทปฏิชีวนะนั้น เพิ่งเกิดได้ไม่กี่สิบปีมานี้เอง
เมื่อไม่มียาประเภทปฏิชีวนะ แต่คนโบราณซึ่งเป็นบิดมากมาย เขาก็อยู่รอดมาได้ ฉะนั้น สมัยก่อนก็คงต้องมียารักษาโรคบิดมาแล้ว
ตอนนี้แหละ ผมจึงได้ใช้ความพยายามส่วนตัวศึกษายาประเภทต่างๆ แล้วก็มาเล่าสู่กันฟัง แฟนชาวชีวจิตจะได้ลองเลือกยาง่ายๆ มาใช้กับตัวเองได้
ขอเรียนให้ทราบไว้ก่อนอย่างหนึ่งนะครับ เมื่อจะขอยาประเภทต่างๆมาไว้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นยาโบราณ ยาแผนไทย หรือยากลางบ้าน อย่างไรก็ตาม ขอให้ศึกษาถึงประวัติของยาเหล่านั้นไว้ให้ดีก่อน
ที่ต้องเตือนอย่างนี้ ก็เพราะสมัยนี้มีของปลอมๆมากมาย มีอาจารย์ปลอมๆหรืออยู่ๆก็ตั้งตัวเป็นหมอปลอมๆ อ้างตัวว่าเป็นผู้มียาวิเศษอย่างโน้นอย่างนี้ คนก็เชื่อกันง่ายเหลือเกิน
ส่วนยาต่างๆซึ่งไม่ใช่ยาแผนปัจจุบัน และผมจะเสนอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาต่อไปนี้ ขอเรียนให้ทราบว่า อยู่ในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
1.เป็นยาที่ใช้กันมานาน มีประวัติการใช้เป็นที่น่าเชื่อถือได้ หรือ
2. เป็นยาเก่าก็จริง แต่ได้ถูกนำมาศึกษา, วิจัย, และค้นคว้าด้านเภสัชศาสตร์ จนพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้แน่นอนว่ามีตัวยาหรือสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริง
เฉพาะในเรื่องข้อ 2 นี้ ผมเอาจริงเอาจังกับการศึกษาและค้นคว้าเป็นอย่างมาก ได้พบ เรื่องสนุกๆน่าสนใจ และในขณะเดียวกัน ก็มีเรื่องน่าสังเวชและเรื่องจอมปลอมของคนหลายคนหลายเรื่อง
เฉพาะคราวนี้ขอเล่าเรื่องสนุกๆ น่าสนใจให้ฟังสักเรื่องหนึ่งก่อน เรื่องสังเวชอย่าเพ่อเอามาคุยกันเลย จะทำให้ผู้อ่านเสียอารมณ์ไปเปล่าๆ
เรื่องแรกที่จะขอเอามาคุย คือเรื่องของกระเทียม
ผมครบเกษียณอายุเมื่อเกือบจะ 30 ปีมาแล้ว ตอนเกษียณนั้นผมอยู่ต่างประเทศ และตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทย สาเหตุหนึ่งที่ทำให้อยากกลับมาเมืองไทยก็คือ อยากมาศึกษาความเป็นไทยและเรื่องของยาไทยให้มากขึ้น
ตอนที่กลับมาตอนนั้น ยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องของยาไทย แต่จำได้ไม่ว่าจะไปที่ไหน รู้ว่าเขากำลังเห่อเรื่องกินกระเทียม
ตามบ้านเพื่อนๆก็กินกระเทียมเป็นยา กินทั้งกระเทียมสดๆ ทั้งอย่างเป็นเม็ดและทั้งเป็นยาลูกกลอน
ไปที่ร้านอาหาร จะเห็นกระเทียมดองตั้งไว้ในตู้ใส่ขวดโหล มีทั้งขวดเล็กขวดใหญ่เต็มตู้ นั่งลงที่โต๊ะอาหาร ยังไม่ทันสั่งอาหารเลย สาวเสิร์ฟก็จะเอากระเทียมดองมาตั้งให้ลูกค้าคนละถ้วย
ถามเพื่อนว่าสั่งกระเทียมดองมาทำไม เขาบอกว่าไม่ต้องสั่ง ที่ร้านนี้เขาจำได้ ลูกค้าโต๊ะอื่นๆก็เหมือนกัน เขาจำได้ พอนั่งลงเขาก็เอากระเทียมดองมาให้ทุกคน กระเทียมดองร้านนี้เขามีชื่อดังมาก
ดังเรื่องอะไร ผมถาม
ที่ดังเป็นกระเทียมคัดแล้ว และต้องเป็นกระเทียมโทนด้วยจึงจะใช้ได้
ใช้ได้ทำอะไร
ดังก็เป็นยาบำรุง และสำหรับผู้ชายอายุมากๆอย่างเอ็ง กินแล้วก็ดึ๋งดั๋งไงล่ะ
อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว กินกระเทียม (และก็ต้องเป็นกระเทียมโทนด้วย) ก็เพราะต้องการให้เป็นยาบำรุงและเป็นยาโด๊ปด้วย
เรื่องยาโป๊นี้สำคัญนัก ไม่ว่าจะเป็นเมืองจีนหรือเมืองไทย พอบอกว่าเป็นยาโป๊ ตาลุกกันทุกคน
หมอปลอมบางคนหรือหลายคนอยากเป็นเศรษฐีง่ายๆ ก็ปลุกเสกยาบ้าๆ หรือสารแปลกๆอะไรสักตัว แล้วบอกว่าเป็นยาโป๊บำรุงกำลังก็กลายเป็นเศรษฐีได้ภายในพริบตา
เอาละๆ รู้สึกจะพล่ามมากไปแล้ว ไหนบอกว่าจะไม่พูดเรื่องทุเรศๆไงเล่า
ตกลงไม่พล่ามแล้วครับ ขอขึ้นเรื่องจริงเลยทีเดียว
เรื่องจริงของกระเทียมเป็นอย่างไร
กระเทียมเป็นทั้งยาและอาหาร เรารู้จัก กระเทียมในลักษณะนี้เป็นอย่างดี รู้จักมาหลายพันปีแล้วด้วยซ้ำ
ในด้านของเภสัชกรรมและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เราเคยเอากระเทียมไปแยกและวิจัยว่ามีสารต่างๆที่เป็นทั้งยาและอาหารอย่างไรบ้าง
ชื่อสามัญของกระเทียมที่รู้จักกันทั่วๆไป ก็คือ GARLIC ถ้าเป็นชื่อเฉพาะทางเภสัชกรรมก็ต้องเรียกว่า ALLIUM SATIVUM
ตอนที่เราเอากระเทียมไปแยก เราพบสารตัวยา, สารอาหารและแร่ธาตุหลายตัว ที่สำคัญที่สุด จะว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้ ก็คือยาและสารต่างๆที่พบในกระเทียมนี้ ทุกตัวเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น ไม่มีตัวไหนให้โทษเลย
ตัวอย่างสารที่เราพบก็คือ อัลลิซีน, อัลลีลได-ซัลไฟด์, แคลเซียม, ทองแดง, น้ำมันไขมันต่ำ, ไฟตอนไซด์, เหล็ก, แมกนีเซียม, แมงกานีส, ฟอสฟอรัส, โปแตสเซียม, ซิเลเนียม, กำมะถัน, สังกะสี, วิตามิน A, B1, B2, และ C
เหนื่อยไหมครับ เชื่อไหมครับว่ากระเทียมเพียงหัวเดียว จะมีสารต่างๆมากมายถึง 19 ตัว และอย่างที่บอกไงครับ ว่าสารต่างๆเหล่านี้ต่างมีประโยชน์ทั้งสิ้น อย่างที่ยกตัวอย่างเช่น อัลลิซีน, อัลลีลไดซัลไฟด์ และไฟตอนไซด์ ก็จะเป็นสารประเภทน้ำมันของกระเทียม มีฤทธิ์ช่วยในการลดไขมัน และช่วยในการทำงานของระบบเส้นเลือดและหัวใจได้ดีมาก
โดยเหตุนี้ เขาจึงใช้สารต่างๆที่สกัดออกมาใช้เป็นยาเพื่อลดพิษหรือล้างพิษ ช่วยเพิ่มระดับภูมิต้านทาน (IMMUNE SYSTEM) ช่วยลดความดันโลหิต, ช่วยลดการอักเสบจากไขข้อ (ARTHRITIS), หอบหืด, ไข้หวัดเล็ก–ไข้ หวัดใหญ่ ช่วยระบบการย่อยอาหาร, ช่วยอาการจากโรคหัวใจ, นอนไม่หลับ, โรคเกี่ยวกับการอักเสบของตับ, โรคไซนัส, แผลในกระเพาะและลดการอักเสบ และมีคุณภาพ–สรรพคุณต่อต้านเชื้อโรคแบบยาปฏิชีวนะด้วย
แต่มีข้อคิดอยู่อย่างหนึ่งครับ สำคัญมาก คือประโยชน์จากสารต่างๆที่ได้ระบุมานั้น ต้องได้มาจากน้ำมันกระเทียมทั้งสิ้น
หมายความว่าตัวกระเทียมเฉยๆ โดยเฉพาะบางท่านคิดง่ายๆ เอากระเทียมไปตากแห้ง แล้วบดเป็นผง เอามาอัดเม็ดเป็นยาเอาไปขาย อย่างนั้นใช้ไม่ได้ เพราะกระเทียมอัดเม็ดก็จะมีแต่แป้ง ตัวยาสำคัญซึ่งอยู่ในน้ำมันกระเทียมหายไป
ฉะนั้น ตัวยาในกระเทียมจึงอยู่ในน้ำมันกระเทียม น้ำมันกระเทียมซึ่งอัดอยู่ในแคปซูล จึงมีประโยชน์แท้จริง ไม่ใช่กระเทียมซึ่งอัดเป็นเม็ด
เพราะน้ำมันกระเทียมมีสารซึ่งเป็นแอนตี้ไบโอติกนี่แหละ ผมจึงแนะนำให้ใช้กระเทียมเป็นตัวหนึ่งในการใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวแก่ท้อง
โอย เหนื่อยครับ ที่เล่ามานี้ไม่ใช่เป็นการอวดตัว เพียงแต่ต้องการให้ทราบ ไม่ว่าจะเป็นสารอะไร การจะยกย่องว่าเป็นยาวิเศษได้นั้น ต้องมีหลักฐานในการค้นคว้าและทดลอง
ฉบับหน้าจะมีเรื่องตัวยาล้วนๆ แบบผสมผสานแก้โรคเกี่ยวกับท้องและเกี่ยวกับโรคบิดด้วยครับ.
***********
สาทิศ อินทรกำแหง