กรมทางหลวงเร่งสร้างคันดินรอบสุวรรณภูมิ

13 ตุลาคม 2554, 14:42 น.
http://www.thairath.co.th/content/eco/209032

njpus24ncqkx5e1a6ziudpjr2vb5q1nq3bj7lo3x5ld

“กรมทางหลวง” เร่งเสริมคันดินป้องกันน้ำท่วมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แนะประชาชนโทรศัพท์สอบถามเส้นทางเพื่อความปลอดภัย…

13 ต.ค. นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในปัจจุบัน ส่งผลให้เส้นทางการจราจรทางบกบางส่วนถูกน้ำทะลักเข้าท่วม จนไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ตามปกติ และชุมชนหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนในการอยู่อาศัย กรมทางหลวงจึงเข้าช่วยเหลือประชาชนในส่วนต่างๆอย่างเต็มกำลัง ในส่วนของพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมทางหลวงได้รับนโยบายจากรัฐบาลในการเสริมความแข็งแรงของคันดินกั้นน้ำหรือเขื่อนดิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งป้องกันและกักเก็บน้ำในพื้นที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบบริเวณท่าอากาศยานและพื้นที่ใกล้เคียง โดยการเสริมความแข็งแรงของคันดินกั้นน้ำรอบพื้นที่ท่าอากาศยานฯ ซึ่งเดิมมีความสูงอยู่ที่ 3 เมตร ให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร รวมเป็น 3.50 เมตร ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการรองรับและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันน้ำท่วม คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันอาทิตย์ที่ 16 ต.ค.นี้

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ระดมเครื่องจักร รถบรรทุก รถขุด รถแบ็กโฮ และบุคลากรกว่า 200 คน เข้าดำเนินการเมื่อเวลา 06.00 น. ของวันจันทร์ที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เครื่องจักรและบุคลากรจากศูนย์สร้างและบูรณะสะพานกาญจนบุรี, ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานขอนแก่น, ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานหล่มสัก, ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานลำปาง และหน่วยงานสังกัดกรมทางหลวงในพื้นที่ใกล้เคียง ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ทางทิศใต้ของท่าอากาศยานฯ กรมทางหลวง โดยแขวงการทางสมุทรปราการ สำนักทางหลวงที่ 11 (กรุงเทพฯ) ดำเนินการเสริมแนวกระสอบทรายบริเวณเกาะกลาง และนำแผงกั้นจราจรคอนกรีตเรียงทางซ้าย พร้อมเสริมกระสอบทรายเพื่อทำเป็นแนวกั้นน้ำระยะทาง 1 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จวันศุกร์ที่ 14 ต.ค.นี้

“นอกจากการดำเนินการป้องกันดังกล่าวแล้ว กรมทางหลวงยังช่วยเหลือประชาชนในการเดินทางทุกๆ ด้าน เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนนที่จำเป็นต้องสัญจรบนถนนทางหลวงในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ขอให้โปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพิ่มขึ้นด้วย และให้สอบถามเส้นทางก่อนเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือทุกระยะในการเดินทาง สำหรับประชาชนที่ต้องการสอบถามสภาพเส้นทางการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์ไปได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง, ตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง, สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง 0-2354-6530, 0-2354-6668-76 ต่อ 2014, 2031, ศูนย์บริหารงานอุบัติภัย สำนักบริหารบำรุงทาง 0-2354-6551, ศูนย์บริการข้อมูลทางหลวงพิเศษ 0-2533-6111, หน่วยกู้ภัย มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี (สายใหม่) 0-3857-7852-3, หน่วยกู้ภัยวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก (บางปะอิน-บางพลี) 0-2509-6832, ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) 1111 กด 5 และสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146” นายวันชัย กล่าว

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
  • 13 ตุลาคม 2554, 14:42 น.

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

  • 108 ข่าว
  • ไม่มีรูปภาพที่เกี่ยวข้อง
  • ไม่มีข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น